คำพิพากษาฎีกาที่ 3886/2546 | |
นายประยุทธ มหากิจศิริ | โจทก์ |
กรมสรรพากร กับพวก | จำเลย |
เรื่อง การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 78 (ภาษีการค้า) | |
การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร อันเข้าลักษณะเป็นผู้ประกอบการค้าอสังหาริมทรัพย์ ต้องเสียภาษีการค้า ตามมาตรา 78 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบด้วยบัญชีอัตราการค้า ประเภทการค้า 11 นั้น หมายถึง การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมีเจตนา มุ่งค้าหรือหากำไร ซึ่งต้องพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในการได้มาจนกระทั่งขายไป เช่น วัตถุประสงค์ในการได้มา ลักษณะในการครอบครองทำประโยชน์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้มาหรือไม่ ระยะเวลาที่ครอบครอง การปรับปรุงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ความจำเป็นในการขายอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนราคาตอนที่ได้มากับราคาตอนที่ขายไปแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ซื้อที่ดินจากโจทก์เป็นเพียงลูกจ้างของบริษัท จึงไม่น่าเชื่อว่าจะซื้อที่ดินพิพาทในราคาสูง น่าเชื่อว่าผู้ซื้อที่ดินเป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ในการครอบครองที่ดินและขายที่ดินพิพาทประกอบกับการที่โจทก์ซื้อที่ดินมาหลายแปลง ครอบครองที่ดินส่วนใหญ่ในระยะสั้น แล้วโอนขายต่อในราคาสูงโดยมิได้มีการก่อสร้างโรงงานใดๆ ตามที่โจทก์อ้าง แสดงว่าเป็น การขายที่ดินโดยมีเจตนามุ่งค้าหากำไร โจทก์ขายที่ดินพิพาทในเดือนสิงหาคมและกันยายน 2533ซึ่งอยู่ในบังคับของภาษีการค้า และไม่อาจนำหลักเกณฑ์ในพระราชกฤษฎีกา ออกตามความ ในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 มาใช้บังคับได้ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้า ตามที่จำเลยประเมิน | |