คำพิพากษาฎีกาที่ 483/2546 | |
บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากร กับพวก | จำเลย |
เรื่อง บริษัทต่างประเทศประกอบกิจการในประเทศไทย | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา (4)(ก) 70 70 ทวิ | |
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีวินิจฉัยว่า กรณีที่จะถือว่าบริษัท อ. ประกอบกิจการในประเทศไทยตามมาตรา 76 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ต้องปรากฏว่า บริษัท อ. ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ มีลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยแต่ตามสัญญาจัดการทางเทคนิค บุคลากรที่บริษัท อ. จ้างมาทำงานกับโจทก์มีหน้าที่ให้คำแนะนำฝึกฝนเจ้าหน้าที่คนไทยในการดำเนินการของโรงงานและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ของโจทก์ และบริษัท อ. ได้รับเงินค่าตอบแทน ค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 0.85 บาท จากยอดรายรับจากการขายของโจทก์ทั้งหมด ซึ่งมีลักษณะเป็นการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่โจทก์ในการประกอบกิจการของโจทก์เอง ซึ่งบุคลากรดังกล่าวทำงานโดยอิสระในฐานะผู้เชี่ยวชาญของบริษัท อ. ไม่ปรากฏว่า โจทก์ซื้อสินค้าผ่านบุคลากรดังกล่าวแต่อย่างใด บุคลากรดังกล่าวมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าที่ก่อให้เกิดเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร การที่บริษัท อ. มีบุคลากรดังกล่าวมาทำงานในประเทศไทยจึงมิได้เป็นเหตุให้ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ในประเทศไทยถือไม่ได้ว่า บริษัท อ. ประกอบกิจการขายสินค้าให้แก่โจทก์ในประเทศไทยตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อโจทก์ผู้ซื้อสินค้าชำระดอกเบี้ยซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัท อ. ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย บริษัท อ. จึงต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยให้โจทก์ผู้จ่ายหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายตามอัตราภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร |