เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่10252/2546 
กรมสรรพากรโจทก์

นายภูมิธเนศ รุ่งเช้า ที่ 1 , นายไพบูรณ์ รุ่งเช้า ที่ 2 ,

จำเลย
นางสาวยุวลักษณ์ ม่วงอุมิง ที่ 3 , ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ 4 กับพวก 
เรื่อง การประเมิน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 25

ศาลฎีกาเห็นว่าสมุดบัญชีและเอกสารการลงบัญชีของโจทก์ถูกเพลิงไหม้ไม่มีให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบเจ้าพนักงานประเมินจึงประเมินโดยใช้วิธีเปรียบเทียบหรือประมาณการหากำไรซึ่งวิธีการคำนวนหากำไรของรอบระยะเวลาบัญชีปี 2534 โจทก์พอรับได้จึงถือได้ว่าโจทก์ยินยอมให้ใช้วิธีการประเมินดังกล่าวเจ้าพนักงานพิจารณาอุทธรณ์จึงได้นำภาษีหัก ณ ที่จ่ายมาเครดิตภาษีให้ตามที่โจทก์อุทธรณ์แล้วจึงถือว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2534 ชอบแล้วส่วนรอบระยะเวลาบัญชีปี 2535 เจ้าพนักงานประเมินใช้วิธีการประเมินเช่นเดียวกับรอบระยะเวลาบัญชี ปี 2534 และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้นำรายจ่ายค่าโฆษณาและส่งเสริมการขายไปเปรียบเทียบกับรายจ่ายปี 2536 - 2538 ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์เพราะในรอบระยะเวลาบัญชี ปี 2535 โจทก์มีรายจ่ายสูงขึ้นเนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่กับมีการเตรียมการสำหรับระบบภาษีมูลค่าเพิ่มและเจ้าพนักงานประเมินมีหนังสือถึงโจทก์ขอเลื่อนการไปตรวจสอบบัญชีและเอกสารมาโดยตลอดจึงน่าเชื่อว่าโจทก์นำสืบว่าโจทก์เตรียมบัญชีและเอกสารไว้ให้ตรวจสอบแล้วแต่เจ้าพนักงานประเมินไม่ไปตรวจสอบเป็นเวลา 1 ปี เศษ จนเกิดเพลิงไหม้สมุดบัญชีและเอกสารดังกล่าวเมื่อไม่ปรากฎหลักฐานชัดแจ้งว่ารายจ่ายค่าโฆษณาและส่งเสริมการขายที่ระบุไว้ในงบการเงินเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรเพื่อความเป็นธรรมแก่โจทก์จึงสามารถนำรายจ่ายดังกล่าวดังกล่าวไปคำนวณกำไรสุทธิได้อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นจึงให้โจทก์ นำรายจ่ายค่าโฆษณาและส่งเสริมการขายมาคำนวณกำไรสุทธิได้ทั้งจำนวน

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021