คำพิพากษาฎีกาที่ 6395/2546 | |
บริษัท ไทยวิวัฒน์เคหะ จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากร กับพวก | จำเลย |
เรื่อง เพิกถอนการประเมิน | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 20 และข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ.2539 ข้อ 10 | |
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 ก่อนวันนัดสืบพยาน โจทก์ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลชั้นต้นยกคำร้อง และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง ให้งดสืบพยานจำเลยและพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 20 และข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ.2539 ข้อ 10 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะยื่นฟ้องคดีนี้ ได้กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 30 วัน ศาลชั้นต้นนัดชี้สองสถานครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2542 ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลได้เลื่อนการชี้สองสถานโดยนัดในวันที่ 7 ธันวาคม 2542 เมื่อศาลได้ชี้สองสถานแล้วและนัดสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 โจทก์เพิ่งยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2543 โดยอ้างว่าโจทก์เข้าใจว่าได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว ความเข้าใจผิดของโจทก์ดังกล่าวย่อมไม่อาจรับฟังเป็นเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาได้ ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์จึงชอบแล้ว และเมื่อโจทก์มีภาระพิสูจน์ข้อเท็จจริงในประเด็นข้อพิพาทตามคำฟ้องที่ศาลชั้นต้นได้ชี้สองสถานไว้ว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่โจทก์ไม่มีพยานนำสืบพิสูจน์ตามข้อกล่าวอ้าง จึงต้องฟังว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน | |