เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่ 1821/2548 
กรมสรรพากรโจทก์

บริษัท เอ.เอส.เอส.คอนสตรั๊คชั่น จำกัด ที่ 1

จำเลย
นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล ที่ 2
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237

จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 กรรมการผู้มีอำนาจ ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ นิติบุคคลสำหรับ รอบระยะเวลาบัญชีปี 2529 ต่ำไปถึง 8,000,000 บาทเศษ ชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองยื่นแบบแสดงรายการต่ำกว่าเป็นจริง โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระภาษีให้ถูกต้อง เมื่อโจทก์มีหมายเรียกให้จำเลยที่ 1 ไปให้ถ้อยคำพร้อมส่งมอบบัญชีและเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อทำการไต่สวนตรวจสอบ จำเลยที่ 1 จึงต้องทราบว่า เจ้าพนักงานจะต้องประเมินภาษีของจำเลย ที่ 1 ที่ยื่นไว้ไม่ถูกต้องใหม่ ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 โอนขายที่ดินจำนวน 6 แปลง แก่จำเลยที่ 2 ภายหลังจากทราบว่ามีหนี้ค่าภาษีอากรที่จะต้องถูกประเมินใหม่ชำระเพิ่มเติมต่อโจทก์ แม้หนี้ดังกล่าวยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยง ให้ที่ดินดังกล่าวพ้นจากการถูกยึดบังคับชำระหนี้ภาษีอากร อันเป็นการกระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ทราบอยู่แล้วว่าจำเลยที่ 1 มีหนี้ค่าภาษีอากรที่ต้องชำระเพิ่มเติมต่อโจทก์ แม้ต่อมาจำเลยที่ 2 จะออกจากการเป็นกรรมการของจำเลยที่ 1 แล้ว แต่การที่จำเลยที่ 2 ได้ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินกับจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับหมายเรียกตรวจสอบภาษีจากโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ขายที่ดินรวม 6 แปลง ให้แก่จำเลยที่ 2 ในราคาเพียง 2,990,000 บาท ทั้งๆที่ที่ดินทั้ง 6 แปลงมีราคาประเมินเป็นเงินรวม 7,960,000 บาท ย่อมชี้ให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ได้ทราบถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย

โจทก์เป็นนิติบุคคลโดยเป็นกรมในรัฐบาล ผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ หรือฟ้องคดีแทนโจทก์คือ อธิบดี พนักงานเจ้าหน้าที่อื่นของโจทก์ทุกระดับ แม้จะมีหน้าที่ปฏิบัติงานให้แก่โจทก์ แต่ก็ไม่มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ หรือฟ้องคดีแทนโจทก์ เมื่อนิติกรของโจทก์ได้ทำบันทึกข้อความเสนอให้อธิบดีโจทก์ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงเรื่องการโอนที่ดินอันเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2540 จึงถือได้ว่าโจทก์ได้รู้ถึงการฉ้อฉลการโอนขายที่ดินระหว่างจำเลยทั้งสองในวันที่ 17 มีนาคม 2540 โจทก์ฟ้องคดีวันที่ 24 มิถุนายน 2540 ยังไม่พ้น 1 ปี นับแต่เวลาที่โจทก์รู้มูลเหตุให้เพิกถอน คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว พิพากษายืน

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021