เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่ 3226/2548 
บริษัท พ.พรีเซนเตชั่น จำกัดโจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย
เรื่อง ภาษีอากร
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 23 มาตรา 24 มาตรา 26 มาตรา 68 มาตรา 71(1)

โจทก์ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2537 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 68 เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจออกหมายเรียกโจทก์มาตรวจสอบภาษีได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 23 โดยเจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกโจทก์ครั้งแรกให้โจทก์ไปพบและนำเอกสารหลักฐานไปให้ตรวจสอบแต่โจทก์เพิกเฉย เจ้าพนักงานประเมินจึงได้ออกหนังสือเตือนให้โจทก์ไปพบและนำหลักฐานไปส่งมอบอีก นาง ส. กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์มาพบเจ้าพนักงานประเมิน แต่ก็มิได้มอบเอกสารหลักฐานใดให้ตรวจสอบ เจ้าพนักงานประเมินจึงมีหนังสือเชิญโจทก์ไปพบและส่งมอบบัญชีพร้อมด้วยเอกสารหลักฐานอีก 3 ครั้ง โจทก์จึงมอบบัญชีที่ต้องจัดทำตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ เจ้าพนักงานประเมิน ซึ่งเป็นระยะเวลานานเกือบ 4 ปี การที่เจ้าพนักงานประเมินคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิเปรียบเทียบกับการประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) แล้ว การประเมินตามมาตรา 71 (1) มีจำนวนภาษีมากกว่า จึงขออนุมัติไม่ประเมินภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) ตามคำร้องขอของโจทก์ แต่อธิบดีของจำเลย ไม่อนุมัติโดยเห็นว่า โจทก์ไม่ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเท่าที่ควร และเจ้าพนักงานประเมินได้ปฏิบัติตาม โดยประเมินให้โจทก์เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายตามประมวลรัษฎากร มาตรา71(1) อันเป็นการดำเนินการตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.78/2541 เรื่อง ขอบเขตการใช้อำนาจตามมาตรา 71(1) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่27 ตุลาคม 2541 จึงชอบแล้ว ส่วนยอดรายได้ที่แตกต่างกันนั้น โจทก์ไม่มีหลักฐาน การรับเงินและหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของผู้ว่าจ้างมาแสดงว่าเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2536 ซึ่งได้ชำระภาษีไว้แล้ว ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์นั้น ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021