คำพิพากษาฎีกาที่683/2548 | |
กรุงเทพมหานคร | โจทก์ |
นายวิเชียร กิติมหาคุณ | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 มาตรา 229พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 มาตรา | |
คดีนี้ศาลภาษีอากรกลางมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโดยขาดนัด จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งให้ยกคำขอ ค่าคำขอเป็นพับ จำเลยอุทธรณ์ ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนว่า ในชั้นที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลภาษีอากรกลางนั้นจำเลยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์มาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 29 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติว่า "การอุทธรณ์นั้นให้ทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลชั้นต้นซึ่งมี คำพิพากษาหรือคำสั่งภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น และผู้อุทธรณ์ต้องนำเงิน ค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือตามคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย..." คดีนี้ ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งให้ยกคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย การที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลภาษีอากรกลาง โดยขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาใหม่ ซึ่งจะทำให้คำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางที่บังคับให้จำเลยชำระหนี้ แก่โจทก์เป็นอันเพิกถอนไปได้ ผลเท่ากับเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางอยู่ในตัวนั้นเอง ดังนั้น จำเลยต้อง นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ โดยศาลภาษีอากรกลางไม่จำต้องมีคำสั่งให้จำเลยปฏิบัติก่อน การที่จำเลยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์เช่นนี้ จึงมิชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ต้องยกอุทธรณ์เสีย ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย |