เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่11980/2547 
บริษัทร่วมพัฒนาอุตสาหกิจ จำกัด โจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย
เรื่อง รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (5)

โจทก์ประกอบกิจการให้เช่าที่ดิน ที่ดินที่ซื้อมาจึงเป็นทรัพย์สินที่เป็นทุนของโจทก์ เพื่อใช้ในการประกอบกิจการของโจทก์ โจทก์กู้ยืมเงินมาซื้อที่ดินเพื่อประกอบกิจการ เงินกู้ที่โจทก์จ่ายเป็นค่าซื้อที่ดินดังกล่าวจึงเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (5) ส่วนดอกเบี้ยอันเกิดจากการกู้ยืมนั้นแม้มิใช่รายจ่ายที่ทำให้โจทก์ได้ที่ดินมาโดยตรง แต่ดอกเบี้ยนั้นก็เป็นรายจ่ายที่เกิดจากการกู้ยืมเงินมาซื้อที่ดิน ซึ่งโจทก์มีภาระต้องจ่ายตั้งแต่แรก กู้ยืมเงินมาจนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยดังกล่าวจึงเป็นผลโดยตรงที่ต่อเนื่องจากการกู้ยืมเงินของโจทก์ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อที่ดินอันเป็นต้นทุน ดังนั้นดอกเบี้ยซึ่งเกิดจากการกู้ยืมเงินของโจทก์ที่นำมาซื้อที่ดินไปให้ผู้อื่นเช่าจึงเป็นรายจ่าย อันมีลักษณะเป็นการลงทุนเช่นเดียวกับเงินกู้ยืมที่โจทก์นำไปซื้อที่ดิน จึงต้องห้ามมิให้นำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (5)

โจทก์ไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นการเข้าใจในข้อกฎหมาย ที่ผิดพลาดไป ประกอบกับปัจจุบันได้มีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 375) พ.ศ.2543 ซึ่งใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่ม ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2543 เป็นต้นไป มาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวให้ยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนเท่ากับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เพื่อซื้อ หรือให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ทั้งนี้เฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับเงินกู้ยืมในคดีนี้ แม้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจะไม่มีผลให้โจทก์ได้รับประโยชน์เนื่องจากบังคับใช้ในภายหลัง แต่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ สมควรลดเบี้ยปรับลงได้อีก ดังนั้นที่ศาลภาษีอากรกลางลดเบี้ยปรับให้โจทก์ เหลือเพียงร้อยละ 20 จึงเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021