คำพิพากษาฎีกาที่7758/2547 | |
บริษัทฉะเชิงเทราคัสติ้งเวิค จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากร | จำเลย |
เรื่อง ภาษีนิติบุคคล | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (4) | |
โจทก์ประกอบกิจการผลิต จำหน่าย เหล็กหล่อหลายประเภท ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2538โจทก์ได้ส่งออกเหล็กหล่อส่วนหนึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 209,806.22 บาท ไปยังลูกค้าในต่างประเทศ โดยโจทก์มิได้ รับเงินจากผู้ซื้อและมิได้นำรายได้ในส่วนนี้ไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของรอบระยะเวลาบัญชีปี 2538 เนื่องจากโจทก์ส่งออกไปทดแทนสินค้าที่ชำรุดบกพร่อง โดยโจทก์ไม่มี รายได้ในส่วนนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่ามีเอกสารเกี่ยวกับข้อตกลงในการส่งสินค้าทดแทนสินค้าที่ชำรุด ประกอบกับโจทก์มิได้นำลูกค้าของโจทก์ดังกล่าวมานำสืบสนับสนุนว่าได้มีการตกลงให้โจทก์ส่งสินค้าทดแทนสินค้าที่ชำรุดตามที่โจทก์อ้างแต่อย่างใด แม้บริษัท โกยาม่าคัสติ้ง จำกัด จะมีหนังสือแจ้งถึงประเภทและจำนวนของสินค้าคือ CM HEAD CYLINER ที่ไม่รับมอบมายังโจทก์ และโจทก์ได้ส่งสินค้าประเภทเดียวกันให้แก่บริษัทดังกล่าวโดยไม่คิดค่าตอบแทนตามใบกำกับ สินค้าจริง แต่จำนวนสินค้าที่บริษัท โกยาม่าคัสติ้ง จำกัด แจ้งว่าไม่รับมอบ ก็มิได้ระบุว่าไม่รับมอบสินค้าเพราะเหตุใดและสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าขนาดใด ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบมา ยังไม่อาจรับฟังได้ว่าสินค้าที่โจทก์ส่งไปตามใบกำกับสินค้า เป็นสินค้าชนิดและขนาดเดียวกับ สินค้าที่ลูกค้าของโจทก์ไม่รับมอบ นอกจากนี้ในการส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ โจทก์ น่าจะมีระบบการตรวจสอบสินค้าว่ามีคุณภาพและได้มาตรฐานก่อนส่งออกไปให้แก่ลูกค้า ในต่างประเทศอยู่แล้ว สินค้าที่ส่งออกไปจึงไม่น่าจะมีข้อบกพร่องหรือชำรุดมากมายดังที่โจทก์อ้าง ทั้งเมื่อลูกค้ากล่าวอ้างว่าสินค้าชำรุดบกพร่อง โจทก์ก็น่าจะมีการตรวจสอบก่อนว่าสินค้าที่ส่งไปชำรุดจริงหรือไม่ ก่อนที่จะส่งสินค้าไปทดแทน แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้กระทำการดังกล่าว เป็นการผิดปกติวิสัยในทางการค้า ประกอบกับโจทก์มิได้นำสินค้าที่ชำรุดกลับคืนมา นอกจากนั้น ในชั้นตรวจสอบภาษีของโจทก์ ผู้ตรวจสอบภาษีของจำเลยได้ให้ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์นำเอกสารยืนยันว่าได้ส่งสินค้าไปทดแทนมาแสดง แต่โจทก์ก็มิได้นำส่งทั้งที่แจ้งว่ามีเอกสารดังกล่าว ส่วนทนายความโจทก์ก็เบิกความไปตามเอกสาร ไม่ทราบข้อเท็จจริงในการดำเนินการของโจทก์ ดังนั้น พยานหลักฐานเท่าที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอรับฟังได้ว่า สินค้าที่โจทก์ส่งออกไปยังลูกค้าของโจทก์คิดเป็นจำนวนเงิน 209,806.22 บาท เป็นสินค้าที่โจทก์ส่งออกไปทดแทนสินค้า ที่ชำรุดบกพร่อง จำเลยจึงมีอำนาจประเมินค่าตอบแทนตามราคาตลาดมาคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากรได้ สำหรับในกรณี เบี้ยปรับนั้น แม้โจทก์จะได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาษีแล้วก็ตาม แต่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก็ได้ลดเบี้ยปรับดังกล่าวลงมาร้อยละ 50 ของ เบี้ยปรับตามกฎหมายแล้ว เหมาะสมสำหรับกรณีของโจทก์แล้ว จึงไม่มีเหตุผลเปลี่ยนแปลงแก้ไข ส่วนในกรณีเงินเพิ่ม ไม่มีกฎหมายให้อำนาจให้งดหรือลดได้ จึงไม่อาจงดหรือลดเงินเพิ่มได้. | |
นายขจรเดช เจนวัฒนานนท์/ย่อ |