เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่809/2549 
บริษัทเอเชียอินดัสเตรียลพาร์ค จำกัด โจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย
เรื่อง รายจ่ายต้องห้าม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (1) (2) มาตรา 65 ตรี (3) (5)

โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท ประกอบกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์โดยกู้ยืมเงินใน ประเทศเพื่อซื้อที่ดิน ต่อมากู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศมาใช้หนี้เงินกู้ในประเทศ(ที่กู้มาเพื่อซื้อที่ดิน) โจทก์จึงเป็นหนี้เงินตราต่างประเทศซึ่งอาจต้องเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน จึงทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง จากความผันผวนของค่าเงิน และได้นำรายจ่ายดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ คดีจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่า โจทก์สามารถนำผล ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ามาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของโจทก์ ได้หรือไม่

ศาลเห็นว่า การที่โจทก์กู้ยืมเงินในประเทศจากธนาคาร ก. มาเพื่อซื้อที่ดิน เงินกู้ และดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงินย่อมถือเป็นต้นทุนของที่ดินดังกล่าว และเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะ เป็นการลงทุนมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไร เนื่องจากเป็นรายจ่ายที่จ่ายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของโจทก์อัน เป็นทุนรอนของโจทก์เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการอันมีผลก่อให้เกิดรายได้ต่อธุรกิจของโจทก์ต่อไป จึงต้องห้ามมิให้นำมาหักเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2540 ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวล รัษฎากร และแม้โจทก์จะกู้ยืมเงินตราต่างประเทศมาเพื่อใช้หนี้เงินกู้ในประเทศที่โจทก์กู้จากธนาคาร ก. มิใช่เพื่อซื้อที่ดินโดยตรง แต่เมื่อโจทก์นำเงินกู้ในประเทศไปใช้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาและแบ่งขายในลักษณะโครงการปลูกสวนป่า หนี้เงินกู้และดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศจึงเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับหนี้เงินกู้ในประเทศดังกล่าว เสมือนเป็นเพียงการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายค่าซื้อที่ดินอันเป็นรายจ่ายฝ่ายทุน และ การที่โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของ ค่าเงินที่อาจเกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนดต้องชำระคืนเงินกู้ให้แก่ธนาคารต่างประเทศที่โจทก์กู้ยืมมา ดังนั้น ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และ รายจ่ายในการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าในส่วนที่เกี่ยวกับการซื้อที่ดินที่โจทก์ต้องจ่ายไป จึงเป็นรายจ่ายต่อเนื่องที่เป็นผลโดยตรงจากการที่โจทก์กู้ยืม เงินตราต่างประเทศมา ชำระหนี้เงินกู้ในประเทศเพื่อซื้อที่ดินอันเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนของโจทก์ หาใช่เป็นค่าใช้จ่าย อันเกิดจากการบริหารในการดำเนินธุรกิจการค้าหากำไรของโจทก์ไม่ เมื่อโจทก์คำนวณ รายได้และรายจ่ายโดยใช้เกณฑ์สิทธิ แต่โจทก์ยังไม่สามารถพัฒนาที่ดินเพื่อขายได้ โจทก์จึงไม่อาจนำผลขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการ คำนวณกำไรสุทธิของโจทก์สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2540 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2540 ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากรได้

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021