คำพิพากษาฎีกาที่3421/2549 | |
ห้างหุ้นส่วนจำกัดเกดิษฐ์ดีวิลอปเมนท์ | โจทก์ |
กรมสรรพากร | จำเลย |
เรื่อง ฟ้องเคลือบคลุม | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 20 ข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ.2544 ข้อ 13 วรรคหนึ่ง | |
ตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ. 2544 ข้อ 13 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า คำฟ้องที่แสดงให้พอเข้าใจได้ถึงสภาพแห่งข้อหา ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา และคำขอบังคับ ให้ถือว่าเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย และ วรรคสองกำหนดว่า ถ้าจำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่เข้าใจคำฟ้องในส่วนใด ศาลอาจสั่งให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องโดยอธิบายรายละเอียดในส่วนนั้นให้ชัดเจนขึ้นก็ได้ คดีนี้จำเลยให้การต่อสู้ว่าคำฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่ได้บรรยายฟ้องว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ชอบอย่างไร และ ขัดต่อประมวลรัษฎากรอย่างไร เป็นคำฟ้องที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา หากศาลภาษีอากรกลางเห็นว่าข้อต่อสู้ของจำเลยรับฟังได้ ศาลภาษีอากรกลางต้องมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง โดยอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้นตามข้อกำหนดดังกล่าว การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุดังกล่าวจึงไม่ชอบ ข้อความที่โจทก์บรรยายในคำฟ้อง คำขอบังคับประกอบกับเอกสารท้ายคำฟ้องเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ โต้แย้งว่า เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ประเมินและวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าโจทก์มีรายรับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนด ทั้งๆ ที่โจทก์ไม่มีรายรับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเป็นการกล่าวอ้างว่าการประเมินและคำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยประมวลรัษฎากรนั่นเอง คำฟ้องของโจทก์จึงแสดงให้พอเข้าใจถึงสภาพแห่งข้อหา ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา และคำขอบังคับ จึงเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ.2544 ข้อ 13 วรรคหนึ่ง ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 20 แล้ว ที่ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยว่าคำฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่เห็นพ้องด้วย จึงเห็นสมควรให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลภาษีอากรกลางดำเนินการเสียก่อน | |
ศาลภาษีอากรกลาง/ย่อ | |