เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่4168/2549 
บริษัทยู.เค.ซิสเต็มแอนด์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ โจทก์
บริษัทกฎหมายหนึ่งสยามและธุรกิจ จำกัด

กรมสรรพากร

จำเลย
เรื่อง ใบกำกับภาษี
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 82/5 (5) , 86

เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยเห็นว่าโจทก์นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีจำนวน 4 ฉบับ ซึ่งเป็นใบกำกับภาษีของบริษัท ก. ที่ออกโดยไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี มาหักในการคำนวณภาษี เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจึงได้มีหนังสือแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

สินค้าที่โจทก์ซื้อจากบริษัท ก. เป็นสินค้าประเภทสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า และโคมไฟฟ้า มีราคาสินค้ารวมภาษีมูลค่าเพิ่มดังนี้ 115,346.00 บาท 113,296.95 บาท 92,720,.85 บาท และ 64,392.60 บาท การซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงินมากดังกล่าวโดยปกติต้องปรากฏหลักฐานการนำเงินมาชำระค่าสินค้า นาย น. กรรมการโจทก์เบิกความว่า ชำระค่าสินค้าเป็นเงินสด แต่ก็ไม่นำพยานหลักฐานมานำสืบว่า เงินค่าสินค้าดังกล่าวโจทก์นำมาจากไหน เพียงแต่กล่าวอ้างลอยๆ ว่าในการชำระค่าสินค้าชำระด้วยเงินสด จะหยิบยืมจากนายทุนหรือเพื่อนๆ มา หรือเบิกเงินของตนเองมาชำระค่าสินค้า นอกจากนี้ในการชำระค่าสินค้าให้แก่บริษัท ก. ก็ไม่ได้ให้ผู้รับเงินลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน อันเป็นการผิดวิสัยของผู้ประกอบการค้าโดยทั่วไป แม้ในชั้นตรวจสอบ นาย ส. กรรมการผู้จัดการบริษัท ก. จะมาให้การต่อเจ้าพนักงานของจำเลยว่า ได้มีการส่งสินค้าและ รับชำระเงินจากโจทก์จริง แต่จากการตรวจสอบเอกสารที่ยึดได้จากบริษัท ก. ก็ไม่พบเอกสารใดที่แสดงถึงการซื้อขายสินค้าตามใบกำกับภาษีพิพาท พบเพียงแต่สำเนาใบกำกับภาษีที่มีรายการตรงกับใบกำกับภาษีพิพาททั้ง 4 ฉบับ เท่านั้น โจทก์มีภาระการพิสูจน์ให้ได้ความว่า มีการซื้อขายสินค้าตามใบกำกับภาษีพิพาท ระหว่างโจทก์และบริษัท ก. แต่โจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ พยานหลักฐานของจำเลยจึงมีน้ำหนักมากกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่จำเลยนำสืบว่า ไม่มีการซื้อขายสินค้าตามใบกำกับภาษีพิพาททั้ง 4 ฉบับ บริษัท ก. จึงไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น โจทก์จึงต้องห้ามมิให้นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 82/5(5) แห่งประมวลรัษฎากร

ศาลภาษีอากรกลาง/ย่อ

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021