เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่4798/2549 
นางอุไร เอื้ออารีมิตรโจทก์

กรมสรรพากร กับพวก

จำเลย
เรื่อง บุพการีให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาแก่บุตร
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 91/1(4) มาตรา 91/2(6)

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541

โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินตามฟ้องเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2537 ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 2538 โจทก์ได้ จดทะเบียนให้ที่ดินดังกล่าวแก่นาง อ. บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์โดย เสน่หา ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม 2546 เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ 1 ได้ประเมินให้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะและเงินเพิ่มรวม 660,000 บาท โจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัย ให้ยกอุทธรณ์ โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ มีปัญหาวินิจฉัยว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่

เห็นว่า มาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติว่า “ ภายใต้บังคับมาตรา 91/4 การประกอบกิจการ ดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามบทบัญญัติในหมวดนี้...(6) การขายอสังหา ริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้มาโดยวิธีใดก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา.. ” การที่โจทก์จด ทะเบียน ให้ที่ดินตามฟ้องแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยเสน่หา แม้การให้โดยเสน่หาจะถือเป็นการขายตาม มาตรา 91/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร แต่การที่บุพการีให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กรณีที่ทำเป็นทางค้าหรือหากำไร การให้โดยเสน่หาดังกล่าว ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะและเงินเพิ่มตามฟ้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021