เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่6218/2549 
นางสาวสมจิตต์ อิถรัตน โจทก์

กรมสรรพากร กับพวก

จำเลย
เรื่อง ภาษีอากร

โจทก์มอบอำนาจให้นาย ส. ฟ้องคดีแทน จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้นาย ส. ฟ้องคดีแทนแต่อย่างใด ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจไม่ใช่ลายมือชื่อของโจทก์ นาย ส. เบิกความว่า ได้ส่งเอกสารไปให้โจทก์ลงลายมือชื่อที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อโจทก์ลงลายมือชื่อแล้วจึงส่งกลับมาให้นาย ส.ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับมอบอำนาจ แล้วจึงให้นาย บ. ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล กับนาย ธ. หัวหน้าฝ่าย ลงลายมือชื่อเป็นพยาน ต่อมาโจทก์เดินทางกลับมาประเทศไทย นาย ส.สอบถามถึงการทำหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว โจทก์ยืนยันว่าได้ลงลายมือชื่อแล้ว เห็นว่า นาย ส. มิได้รู้เห็นขณะโจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ นอกจากนี้นาย ส. ยังตอบคำถามของทนายทั้งสี่ ว่าลายมือชื่อของโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจแตกต่างจากลายมือชื่อของโจทก์ในเอกสารหนังสือขอลาออกจากงาน และหนังสือขอความอนุเคราะห์รับค่าจ้าง เจือสมกับข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสี่ เมื่อนาย บ. เข้าเบิกความเป็นพยาน โจทก์ก็หาได้นำสืบถึงประเด็นในข้อนี้ให้ชัดเจนไม่ ที่นาย บ. เบิกความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ นาย ส. ดำเนินการแทน ตั้งแต่ชั้นอุทธรณ์การประเมินแล้ว แต่นาย ส. ผู้รับมอบอำนาจก็เบิกความรับว่า ไม่ปรากฏหลักฐานหนังสือมอบอำนาจในสำนวนชั้นอุทธรณ์การประเมิน พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักน้อยกว่าพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสี่ เมื่อภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวตกอยู่แก่โจทก์ จึงชอบแล้วที่ศาลภาษีอากรกลางจะรับฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้มอบอำนาจให้นาย ส. ดำเนินคดีแทน การยื่นฟ้องคดีนี้โดยนาย ส. จึงไม่ชอบมาตั้งแต่ต้น แม้หลังจากศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องแล้ว โจทก์จะเดินทางกลับประเทศไทยและทำหนังสือรับรองลายมือชื่อทั้งหลายที่มีความแตกต่างกันรวมทั้งลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจว่า ล้วนเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของโจทก์ โดยให้ นาย ก. เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปกครอง ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการเขตพระโขนง กทม. รับรองการทำเอกสารดังกล่าวแนบมาท้ายอุทธรณ์ ก็ไม่อาจทำให้การฟ้องที่บกพร่องไม่ชอบไปแล้วนั้นกลับเป็นการฟ้องโดยชอบขึ้นมาได้ อุทธรณ์ของโจทก์ในข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้นอุทธรณ์ข้ออื่นของโจทก์ไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 12-02-2021