คำพิพากษาฎีกาที่6221/2549 | |
ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยยินดีปิโตรเลียม | โจทก์ |
กรมสรรพากร | จำเลย |
เรื่อง พยานหลักฐาน | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 82/5 (5) มาตรา 89 (7) | |
โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เจ้าพนักงานประเมินสำนักงานสรรพากรจังหวัดร้อยเอ็ดในสังกัดของจำเลยได้ประเมินเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากโจทก์ตั้งแต่เดือนภาษีมกราคมถึงธันวาคม 2540 โจทก์อุทธรณ์คัดค้านการประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์นำใบกำกับภาษีซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ถึงผู้ออกใบกำกับภาษีได้มาใช้คำนวณภาษี ถือเป็นใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 89 (7) แห่งประมวลรัษฎากร ให้ยกอุทธรณ์การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร วินิจฉัยว่า โจทก์นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ออกโดยนิติบุคคล9 ราย มาใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีมกราคมและมีนาคมถึงธันวาคม 2540 จำเลยไม่มีพยานมาเบิกความหักล้างว่า ไม่มีการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงกันจริง อีกทั้งผู้แทนและตัวแทนของนิติบุคคลทั้ง 9 ราย ต่างเบิกความยืนยันว่า ได้ขายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่โจทก์จริง ทั้ง นิติบุคคลทั้ง 9 ราย ก็นำภาษีขายตามใบกำกับภาษีที่ออกให้แก่โจทก์ไปคำนวณและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของจำเลย การออกใบกำกับภาษีจึงเป็นการออกตามที่มีการซื้อขายกันจริง ใบกำกับภาษีดังกล่าวจึงเป็นใบกำกับภาษีที่ออกโดยผู้มีสิทธิออก ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษี จึงไม่เป็นภาษีซื้อต้องห้ามมิให้นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 82/5 (5) โจทก์จึงมีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ออกโดยนิติบุคคลทั้ง 9 ราย มาใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีมกราคมและมีนาคมถึงธันวาคม 2540 ได้ การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในส่วนนี้ไม่ชอบ. |