คำพิพากษาฎีกาที่8825/2549 | |
บริษัท สิตาบ้านและที่ดิน จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากร กับพวก | จำเลย |
เรื่อง ภาษีธุรกิจเฉพาะ | |
ภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นภาษีที่เก็บจากการบริโภคหรือให้การบริการเฉพาะอย่าง โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับภาษีการค้าที่ยกเลิกไปและกำหนดให้เก็บภาษีท้องถิ่นในอัตราร้อยละ 10 ของอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะเช่นที่เคยกำหนดไว้ในภาษีการค้า โจทก์เป็นบริษัทจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2535 ย่อมตระหนักในภาระของตนว่ามีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี ทำรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายที่ต้องเสียภาษี และรายรับที่ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษี และชำระภาษีสำหรับรายรับจากการประกอบกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรอันเป็นปกติธุระของตน การที่โจทก์ไม่ทำหน้าที่ดังกล่าวภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่เป็นภาระหน้าที่เช่นเดียวกับที่โจทก์ พึงมีต่อการชำระภาษีการค้า แสดงแจ้งชัดว่าโจทก์มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ข้ออ้างเรื่องพนักงานลาออก เรื่องประสบภาวะขาดทุน ไม่ใช่ข้อที่อาจยกเป็นข้อแก้ตัวได้ ชั้นพิจารณาโจทก์รับว่า การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ในส่วนเงินภาษีและเงินเพิ่มถูกต้องแล้ว แสดงว่าโจทก์จำนนต่อหลักฐานข้อมูลการขายอสังหาริมทรัพย์ของจำเลย ที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับร้อยละ 50 นับว่าเป็นคุณแก่โจทก์มากแล้ว การที่จำเลยยอมให้โจทก์ผ่อนชำระภาษีอากรค้างมิใช่ข้อที่โจทก์อาจอ้างเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ที่ศาลภาษีอากากลางวินิจฉัยว่าเหตุเกิดในปีแรกที่มีการบังคับใช้ภาษี ธุรกิจเฉพาะจึงมีเหตุอันควรผ่อนผันแก่โจทก์นั้น เหตุดังกล่าวอาจหยิบยกขึ้นใช้ให้เป็นคุณแก่ราษฎรโดยทั่วไปที่จำต้องขายอสังหาริมทรัพย์ในปีแรกเท่านั้นเพราะราษฎรเหล่านั้นอาจขาดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของกฎหมายที่เพิ่งใช้บังคับ แตกต่างจากโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะประกอบกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรเป็นอาชีพ ที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับร้อยละ 50 ของเบี้ยปรับตามกฎหมายจึงชอบแล้ว คำวินิจฉัยของศาลภาษีอากรกลาง ที่ให้ลดเบี้ยปรับลงเหลือร้อยละ 20 ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้อง |