คำพิพากษาฎีกาที่113/2549 | |
กรมสรรพากร | โจทก์ |
ห้างหุ้นส่วนจำกัดธาราวู้ด | จำเลย |
เรื่อง อำนาจฟ้อง | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 30 (1) (2) 88/5 | |
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ้าพนักงานประเมินมีหนังสือแจ้งการประเมินให้จำเลย 1 ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายสำหรับปี 2537 พร้อมเงินเพิ่ม 9,756 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2537 พร้อมเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นเงิน 887,784 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีมกราคมถึงเดือนธันวาคม 2537 พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มเป็นเงิน 928,094 บาท จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ มีคำวินิจฉัยให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มเหลือ 2,969 บาท ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ยกอุทธรณ์ เนื่องจากเห็นว่าการประเมินชอบแล้ว จำเลยที่ 1 ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์แล้วยื่นฟ้อง ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลภาษีอากรกลาง โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามมาตรา 88/5 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีสิทธิอุทธรณ์การประเมินตามบทบัญญัติในส่วน 2 ของหมวด 2 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร คืออุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา 30(1) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยแล้วมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลตามมาตรา 30(2) แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่จะเป็นกรณีต้องห้ามอุทธรณ์ การที่กฎหมายให้อุทธรณ์ต่อศาลเช่นนี้ก็เพื่อให้ศาลพิจารณาว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบหรือไม่ ศาลจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาเปลี่ยนแปลง แก้ไข ยกเลิกหรือเพิกถอนการประเมิน และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยอุทธรณ์เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยฟ้องคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลภาษีอากรกลางแล้ว ต้องรอฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลภาษีอากรกลางในคดี ดังกล่าวก่อน การที่จำเลยไม่ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ในกรณีเช่นนี้จึงหาเป็นการโต้แย้งสิทธิที่โจทก์จะนำคดีมาฟ้องไม่เพราะมิฉะนั้นบทบัญญัติว่าด้วยการ อุทธรณ์ต่อศาลจะไร้ผล ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ศาลภาษีอากรกลางยกฟ้องเฉพาะในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น |