เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่3794/2552 
นายสุรศักดิ์ หะริวงศ์พูลศีลโจทก์
กรมสรรพากรจำเลย
เรื่องการขายอสังหาริมทรัพย์ทางการค้าหรือหากำไร หมายเรียก เบี้ยปรับ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 244) พ.ศ.2534 มาตรา 3 (6)
พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ.2542 มาตรา 4 (6)
คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.127/2546

หนังสือขอเชิญพบโจทก์ทั้ง 2 ครั้ง ไม่ใช่หมายเรียกเพื่อตรวจสอบไต่สวนเป็นเพียงหนังสือขอให้นำเอกสารหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าพนักงานของจำเลยเพื่อประเมินภาษี และโจทก์มิได้รับหนังสือดังกล่าว เพราะโจทก์ย้ายที่อยู่ใหม่ จะถือว่าโจทก์ไม่ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาษียังฟังไม่ได้ถนัด
โจทก์ถือครองที่ดินในระยะเวลานานพอสมควรและขายเฉพาะส่วนของตนให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน โจทก์อุทธรณ์การประเมินเพราะมีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่ต้องเสียภาษี ถือว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจะหลีกเลี่ยงการชำระภาษีตามการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน
โจทก์ได้ชำระภาษีพร้อมเงินเพิ่มแก่จำเลยครบถ้วนแล้ว แต่ยังคงค้างชำระเบี้ยปรับและภายหลังจากโจทก์ยื่นฟ้องคดี โจทก์ยังได้ชำระภาษีให้แก่จำเลยอีกบางส่วน พฤติการณ์ของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นแสดงว่าโจทก์มิได้มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงภาษีอากรตามการประเมิน แม้ขณะที่มีการประเมิน คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 127/2546 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2546 ซึ่งกำหนดแนวทางให้จำเลยงดเบี้ยปรับภาษีได้นั้นจะยังไม่มีผลใช้บังคับ แต่คำสั่งดังกล่าวกำหนดเพื่อเป็นการบรรเทาภาระเบี้ยปรับให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและได้ขายอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2535 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2542 เมื่อโจทก์ขายที่ดินในวันที่ 18 มีนาคม 2537 และกรณีของโจทก์ยังไม่ยุติตามการประเมิน คำสั่งนี้จึงนำมาเป็นเหตุผลประกอบในการพิจารณาบรรเทาเบี้ยปรับให้แก่โจทก์ได้

ศาลฎีกา/ย่อ

 

ปรับปรุงล่าสุด: 13-02-2021