เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: 0702/1296
วันที่: 11 มีนาคม 2557
เรื่อง: ภาษีเงินได้ กรณีการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา
ข้อกฎหมาย : พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547
ข้อหารือ           มหาวิทยาลัยฯ ได้มีโครงการจัดหาทุนในวาระครบรอบ 30 ปี แห่งการก่อตั้งคณะฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้มาจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนของคณะฯ และนำรายได้สมทบกองทุนเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี สมเด็จย่าฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางทันตกรรม ตลอดจนให้การรักษาผู้ป่วยที่ประสบเหตุจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้จะนำรายได้มาเพื่อพัฒนาปรับปรุงคลินิกบริการ (excellence dental clinic) ห้องบรรยาย และคลินิกของนักศึกษาทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้นเพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ ประกอบกับเพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มาบริจาคเงินเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถนำ ใบเสร็จรับเงินไปหักลดหย่อนภาษีได้สองเท่า ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 และตามข้อ 6 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนการศึกษา ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 ซึ่งกำหนดไว้ว่า "เมื่อกระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้วให้แจ้งโครงการที่ได้รับความเห็นชอบต่อกรมสรรพากร" มหาวิทยาลัยฯ จึงขอให้กรมสรรพากรประกาศให้โครงการจัดหาทุนเนื่องในวาระครบ 30 ปี แห่งการก่อตั้งคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ผู้บริจาคสามารถนำไปหักลดหย่อนภา ษีได้จำนวนสองเท่าของเงินที่บริจาคตามเงื่อนไขของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าวข้างต้น
แนววินิจฉัย           กรณีการบริจาคทรัพย์สินที่สามารถนำไปยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 นั้น จะต้องเป็นการบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยสถานศึกษาตามโครงการดังกล่าวต้องเป็นไปตามรายชื่อสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนดตามข้อ 5 และข้อ 6 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548
          กรณีบุคคลธรรมดาบริจาคจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคเงินเท่านั้น ส่วนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค ดังนั้น กรณีมหาวิทยาลัยฯ เป็นสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกำหนด และหากการบริจาคเงินของบุคคลธรรมดาและการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทั้งหมดของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว ผู้บริจาคย่อมมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547
เลขตู้: 77/38951

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020